กระเป๋าเดินทาง ( Luggage ) ตัวช่วยสำคัญในการเดินทาง




กระเป๋าเดินทาง ( Luggage ) ตัวช่วยสำคัญในการเดินทาง


กระเป๋าเดินทางสำคัญสำหรับการเดินทางมากๆ เพราะจำเป็นต้องมีความคล่องตัวสูง จะต้องใส่สัมภาระ อุปกรณ์สื่อสารต่างๆ ดังนั้นเราควรเลือกกระเป๋าที่เหมาะสมและทนทาน ทำให้การเดินทางของคุณราบรื่นและสะดวกมากขึ้น วันนี้เรามีข้อมูลเคล็ดลับในการเลือกซื้อกระเป๋าเดินทางมาฝากกันค่ะ

ทริคในการเลือกซื้อกระเป๋าเดินทาง


ก่อนที่จะเสียกะตังค์ในการซื้อกระเป๋าเดินทาง เราก็ควรรู้ถึงข้อมูลกระเป๋าเดินทางแต่ละประเภทกันก่อนนาจา เพราะจะได้เซฟมันนี่ในกระเป๋าและมั่นใจได้ว่า คุ้มกับเงินที่เสียไปจริง (แอบขี้เหนียว) กระเป๋าเดินทางแบ่งออกเป็น 2 ประเภทนะจ๊ะ คือ แบบแข็ง และแบบอ่อน ซึ่งในแต่ละประเภทก็มีข้อดีต่างกัน เช่น

กระเป๋าเดินทางชนิดแข็ง ข้อดีของมันคือสามารถกันน้ำได้ น้ำหนักเบา ทำความสะอาดง่าย
กระเป๋าเดินทางชนิดอ่อน ข้อดีคือสามารถเพิ่มพื้นที่จัดเก็บได้มากกว่า พูดง่ายๆ คือสามารถยัดของลงไปได้เต็มที่ เพราะรูปทรงจะยืดหยุ่นได้ง่าย

สิ่งต่อไปที่ควรพิจารณาก็คือ วัสดุที่ใช้ทำกระเป๋า รูปแบบของล้อ และขนาด

1. วัสดุที่ใช้ทำกระเป๋า  วัสดุที่ใช้ทำกระเป๋าสามารถแบ่งออกได้ 2 ประเภท
    แบบแรก คือแบบพลาสติกซึ่งสามารถแบ่งออกได้อีก 3 ประเภทคือ
  • FIBER ABS เป็นพลาสติกที่สามารถหลอมใหม่ได้ ขึ้นรูปง่าย มีความแข็งแรงทนทาน แต่มีความยืดหยุ่นน้อย
  • PC จะมีความเหนียว มีความยืดหยุ่น รองรับแรงกระแทกได้ดี ทนความร้อนน้ำหนักเบา แต่ผิวของกระเป๋ามักจะเกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย
  • PP เป็นพลาสติกแข็ง มีความยืดหยุ่นน้อยกว่า PC ทนต่อแรงกระแทกได้ดี ทนต่อสารเคมี ความร้อน และทนต่อการขูดขีดได้ดีกว่า PC
  • แบบที่สอง คือแบบผ้าคุณสมบัติของแบบผ้าคือจะมีความยืดหยุ่นสูง เช่น ผ้า Nylon, Tylon, Teflon ผสม Tylon ซึ่งแบบหลังจะมีราคาสูงกว่า เพราะผสมคุณสมบัติของสองแบบแรกเข้ามาจึงมีคุณสมบัติที่ยืดหยุ่นสูง ทนน้ำได้ดี ไม่ฉีกขาดง่าย
2. รูปแบบของล้อลาก

สำหรับกระเป๋าเดินทางสิ่งที่สำคัญมากอีกหนึ่งอย่างคือ ”ล้อ” เพราะถ้าล้อเกิดพังจากกระเป๋าล้อลากก็จะกลายเป็นกระเป๋าถือแทน สบายหล่ะทีนี้ ฮึๆ และสำหรับล้อลากที่ดี ควรเป็นล้อที่มีตลับลูกปืนหรือล้อยาง ขนาดของล้อต้องมีความสอดคล้องกับขนาดของกระเป๋าด้วย สำหรับกระเป๋าล้อลากมีอยู่ 2 แบบคือ แบบ 4 ล้อและแบบ 2 ล้อ ซึ่งแน่นอนว่าแบบ 4 ล้อ ย่อมดีกว่ามาก เพราะสามารถลากหรือ ”เลื่อน” ไปพร้อมกับตัวเราได้ แต่กระเป๋าล้อลากแบบ 2 ล้อ สามารถลากได้อย่างเดียว แต่ขอแนะนำแบบ 4 ล้อจะดีกว่าค่ะ เพื่อความสะดวกสบายในการเดินทาง

3. ขนาดของกระเป๋าเดินทาง

ขนาดของกระเป๋าจะขึ้นอยู่กับความจำเป็นหรือจำนวนวันในการเดินทาง ขนาด 24-26 นิ้วเป็นขนาดที่เหมาะกำลังดีในการเดินทาง แต่หากเดินทางไม่เกิน 3 วัน ขนาด 20 นิ้ว ก็จะพอดีค่ะ เพราะสามารถยกขึ้นไปไว้บนเครื่องได้ แต่ถ้าชอบใบใหญ่จริง ๆ ก็ไม่ควรเลือกเกิน 28 นิ้วนะคะ เพราะมันจะกินที่หรืออาจจะขนขึ้นรถลำบาก

ขอแถมอีกนิดเรื่องของน้ำหนักในการ hand carry ขึ้นเครื่อง น้ำหนักที่ทุกสายการบินอนุญาติให้ถือขึ้นเครื่องได้ ต้องไม่เกิน 7 กิโลกรัมนะคะ และขนาดจะต้องไม่ใหญ่เกินที่กำหนดไว้ด้วย  วันนี้แค่นี้ก่อนนาจา ^__^


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เครื่องออกกำลังกายและอุปกรณ์ออกกำลังกายที่ควรมีติดไว้ที่บ้าน

เก้าอี้นวดไฟฟ้าคุ้มแค่ไหนนะ หากซื้อมาไว้ที่บ้าน ?

ลำโพงบลูทูธ เรื่องสนุกๆ ในชีวิต