วันนี้เราใช้งานเครื่องปริ้น (Printer) เหมาะสมกับงานแล้วหรือยัง ?

วันนี้เราใช้งานเครื่องปริ้น (Printer) เหมาะสมกับงานหรือยัง ?


เครื่องปริ้น

เมื่อเจอคำถามนี้เข้าไป หลายๆ คนอาจจะมีคำถามว่า เอ๊ะ มันต้องเลือกให้ถูกกับงานด้วยหรอ ก็มันปริ้นได้เหมือนกัน แต่จะบอกว่าเครื่องปริ้นแต่ละประเภทถูกสร้างมารองรับงานประเภทต่าง ๆ เช่น งานเอกสาร งานเกี่ยวกับรูปภาพ หรือบงานเฉพาะทางอื่น ๆ  ดังนั้นวันนี้เราจึงขอนำข้อมูลมาแชร์ให้เพื่อน ๆกันค่ะ  มาเริ่มกันเลยนะคะ
        
1. เครื่องปริ้นแบบดอตแมทริกซ์ (Dotmatrix printer) เครื่องปริ้นแบบนี้เราจะเห็นใช้กันในหน่วยงานราชการ โรงพยาบาล หรือหน่วยงานราชการอื่น ๆ และในสมัยก่อนเคยเป็นที่นิยม ราคาไม่แพงมาก และลักษณะการพิมพ์ก็จะใช้หัวเข็ม การทำงานของเครื่องปริ้นจะใช้หลักการสร้างจุดเล็ก ๆ ลงบนกระดาษโดยตรง เมื่อต้องการที่จะพิมพ์ หัวเข็มจะยื่นลำหน้าออกไป กระแทกผ่านผ้าหมึกบนแผ่นกระดาษ จึงทำให้เกิดจุดขึ้น แต่เวลาพิมพ์จะมีเสียงดังพอสมควร แต่มีอายุการใช้งานที่นาน แต่จะมีข้อเสียอยู่ตรงที่คุณภาพของการพิมพ์จะต่ำกว่า เมื่อเปรียบเทียบกับปริ้นเตอร์แบบอื่นๆ และจะเหมาะสมกับงานที่เป็นแบบฟอร์มที่ต้องการก๊อปปี้หลาย ๆ ชั้น เครื่องปริ้นแบบนี้ ใช้กระดาษต่อเนื่องในการพิมพ์ ซึ่งกระดาษจะมีรูข้างกระดาษทั้งสองข้าง เอาไว้เป็นหนามเตยเพื่อเลื่อนกระดาษ

2. เครื่องปริ้นแบบพ่นหมึก (Inkjet printer) เครื่องปริ้นอิงค์เจ็ทแบบนี้ ปัจจุบันได้รับความนิยมค่อนข้างมาก เพราะจากราคาที่ไม่สูงจนเกินไป และคุณภาพของการพิมพ์ก็เป็นที่ยอมรับและมีการใช้งานค่อนข้างหลากหลาย สามารถทำได้อย่างอย่าง การทำงานจะค่อนข้างเร็วกว่าแบบอื่น ๆ ลักษณะของการพิมพ์จะเป็นการพ่นหมึกเป็นหยดเล็กๆ ลงบนกระดาษในตำแหน่งที่ถูกต้อง แต่เมื่อประกอบกันแล้ว จะออกมากเป็นตัวอักษร และรูปภาพที่สวยงามตามที่เราต้องการ การใช้งานเครื่องปริ้นอิงค์เจ็ทสามารถพิมพ์ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเอกสาร, ภาพถ่าย โดยทั่วไปและมักจะมีขนาดไม่เกิน A3 ซึ่งสามารถที่จะพิมพ์ได้ทั้งแบบ Portrait และ Landscape ลักษณะการป้อนกระดาษจะคล้ายกับเครื่องถ่ายเอกสาร

3. เครื่องปริ้้นเลเซอร์ (Laser printer) ลักษณะการพิมพ์ของเครื่องปริ้นแบบนี้จะใช้เทคโนโลยีเดียวกับเครื่องถ่ายเอกสาร นั่นคือการยิงเลเซอร์ที่จะไปสร้างภาพบนแผ่นกระดาษในการสร้างรูปภาพ หรือตัวอักษร ซึ่งผลลัพธ์การพิมพ์จะมีคุณภาพสูงกว่าเครื่องพิมพ์แบบอิงค์เจ็ท เครื่องปริ้นแบบนี้จะเหมาะสมกับงานที่ต้องการความคมชัดสูง เช่น เอกสารสำคัญต่างๆ แต่ข้อเสียคือเครื่อง print แบบนี้จะมีราคาสูง รวมถึงต้นทุนในการใช้งานและการบำรุงรักษาสูงมากขึ้นด้วยเช่นกัน

4. เครื่องปริ้นมัลติฟังก์ชัน (Multifunction printer) จากชื่อก็คงจะบอกถึงคุณสมบัติของเจ้าเคร่องนี้แล้ว เครื่องปริ้นแบบนี้เป็นเครื่องปริ้นที่รวบรวมเอาการทำงานหลาย ๆ ฟังก์ชันเอาไว้ในเครื่องเดียวกัน อาทิเช่น  การสแกน, การถ่ายเอกสาร, การรับ-ส่งแฟ็กซ์  จึงทำให้มีความสะดวกสบายในการใช้งานมากขึ้น เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความคุ้มค่าและสะดวกในการทำงานแบบสุด ๆ

5. เครื่องปริ้นพล็อตเอตร์ (Plotter) เป็นเครื่องปริ้นแบบที่ใช้เฉพาะงานจริงไมาสามารถคาบเกี่ยวกับงานประเภทอื่นได้  เช่น การเขียนแบบทางวิศวกรรม งานพิมพ์ขนาดใหญ่ที่มีหน้ากว้าง เช่น งานด้านป้ายหรือโฆษณาต่างๆ

       และนี่คือเครื่องปริ้นแบบต่าง ๆ ที่เห็นกันในปัจจุบันค่ะ(ตกหล่นแบบไหนไป ขออภัยด้วยน๊าาาา) เพื่อน ๆ ต้องการใช้งนแบบไหนก็ควรจะเลือกเครื่องปริ้นที่เหมาะกับการใช้งานแบบนั้นนะคะ เพื่อคุณภาพที่ดีของงาน และความคุ้มค่าค่ะ สำหรับบทความนี้ขอหยุดไว้เพียงเท่านี้ก่อนนะคะ  แล้วพบกันใหม่ค่ะ...

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เครื่องออกกำลังกายและอุปกรณ์ออกกำลังกายที่ควรมีติดไว้ที่บ้าน

เก้าอี้นวดไฟฟ้าคุ้มแค่ไหนนะ หากซื้อมาไว้ที่บ้าน ?

ลำโพงบลูทูธ เรื่องสนุกๆ ในชีวิต